วันศุกร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

เรียกข้าว่าลูอิซ!ซัดสุดตีนสิงห์ขย่มบาเซิ่ล 3-1ลิ่วชิงเหยี่ยว

เรียกข้าว่าลูอิซ!ซัดสุดตีนสิงห์ขย่มบาเซิ่ล 3-1ลิ่วชิงเหยี่ยว

ดาวิด ลูอิซแสดงความระห่ำ กระฉูดและโรคจิตแบบเกินอุเบกขาจะทัดทานหลังนัดก่อนยิงฟรีคิกพาเชลซีคว้าชัยช่วงทดเจ็บ มาเกมนี้ยังทะลึ่งส่องไกลด้วยอีซ้ายเสียบสามเหลี่ยมอย่างเสียวซ่านพาทีมกระซวกบาเซิ่ล 3-1 รวมผลสองนัดจัดหนัก 5-2 ทะลุชิงยูโรป้า ลีกกับเบนฟิก้า

ฟุตบอล ยูโรป้า ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดสอง

วันพฤหัสบดีที่ 2 พฤษภาคม 2556

เชลซี 3 : 1 บาเซิ่ล
(รวมผลสองนัด เชลซีชนะไปด้วยสกอร์ 5-2)

สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์

ประตู : 0-1 โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ น.45+1, 1-1 เฟร์นานโด ตอร์เรส น.49, 2-1 วิคเตอร์ โมเซส น.52, 3-1 ดาวิด ลูอิซ น.59


คลิปไฮไลท์ ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก เชลซี 3-1 บาเซิล
เชลซีที่ไม่แพ้เกมยุโรปที่สแตมฟอร์ด บริดจ์มาติดต่อกัน 12 นัดไม่มีแอชลี่ย์ โคลที่ติดโทษแบนและเดมบา บาซึ่งไม่ได้ลงทะเบียนในรายการนี้ ทำให้ไรอัน เบอร์ทรานด์ได้ลงประจำการแบ็คซ้าย โดยมีเฟร์นานโด ตอร์เรสยืนค้ำแดนหน้า ส่วนดาวิด ลูอิซยังถูกดันขึ้นมาเล่นกองกลางเหมือนเคย

บาเซิ่ลงานเข้าเมื่ออเล็คซานเดอร์ ดราโกวิชเซนเตอร์แบ็คตัวเก่งติดโทษแบน ต้องส่งกัสตัน เซาโร่ ลงมาประสานงานกับฟาเบียน ชาร์ ขณะที่มาร์โก สเตรลแลร์เรียกความฟิตกลับมาได้ทันเวลา แต่เรื่องที่น่าเป็นห่วงคือพวกเขาห่างเหินชัยชนะนอกบ้านในรายการนี้มาแล้วกว่า 4 ปี (เสมอ 5 แพ้ 3)

ครึ่งแรก

สเตรลเลอร์มีช่องวอลเล่ย์เฉียดเสา
เริ่มเกมมาได้ 4 นาทีบาเซิ่ลได้ลุ้นจบสกอร์ก่อนเมื่อเล่นบอลยาวมาหน้ากรอบเขตโทษเยื้องฝั่งซ้ายให้สเตรลเลอร์มีเวลาได้ตั้งป้อมวอลเล่ย์หนีมือเช็กหลุดเสาไกลไปชนิดได้ลุ้นเลยทีเดียว

แลมพ์ทะลุล้ำหน้าซัดชนเสา
นาที 8 เป็นทีของเชลซีบ้างเมื่อตอร์เรสเบิ้ลบอลข้ามแนวรับบาเซิ่ลให้แลมพาร์ดทะลุกับดักล้ำหน้าเข้าไปเอี้ยวตัวยิงผ่านซอมเมอร์ไปชนเสาซ้ายกระดอนออกมาให้โมเซสเก็บตกยิงซ้ำแต่เข้าซอง

ตอร์เรสเล่นชิ่งก่อนหวดติดเซฟ
เกมของ"สิงห์บลูส์"เริ่มเหนือกว่าผู้มาเยือนและนาที 18 ตอร์เรสก็ลากบอลจากทางฝั่งซ้ายตัดเข้าในมาทำชิ่งกับอาซาร์จนได้ตะบันไปที่เสาแรกแต่ซอมเมอร์ยังไวพอที่จะล้มตัวปัดออกหลัง

สเตรลเลอร์ได้ง้างเท้าวอลเล่ย์อีก
นาที 26 ทีมเยือนขึ้นเกมเร็วมาทางริมเส้นด้านขวาแล้วเป็นสไตน์โฮเฟอร์ที่บรรจงเปิดบอลข้ามไปยังเสาไกลให้สเตรลเลอร์ที่ยืนว่างเพราะอัซอิลิกวยต้าขยับเข้าด้านในมากไปได้วอลเล่ย์หลุดกรอบ

รามิเรสชาร์จ 6 หลายังติดเซฟ
สี่นาทีถัดมาอาซาร์พาบอลทะลุไปจนสุดส้นหลังด้านซ้ายก่อนตอกส้นมาให้โมเซสที่วิ่งตามมาเปิดยัดเข้าไปในกรอบ 6 หลาให้รามิเรสได้พุ่งชาร์จเต็มๆแต่ดันโชคร้ายที่ไปตรงตัวซอมเมอร์พอดี

บาเซิ่ลกุมขมับไม่ได้ทั้งประตูหรือจุดโทษ
นาที 41 บาเซิ่ลน่าได้ประตูหรือไม่ก็ลูกโทษเมื่อซาลาห์หลุดทะลุไปยิงติดซูเปอร์เซฟของเช็กก่อนที่สต็อคเกอร์พยายามตามยิงซ้ำแต่บอลไปโดนแขนของเบอร์ทรานด์ทว่ากรรมการไม่ยอมเป่า

ซาลาห์แก้ตัวสังหารผ่านเช็ก
แต่ช่วงทดเจ็บครึ่งแรกซาลาห์มาแก้ตัวจากจังหวะก่อนหน้านี้เมื่อรับบอลทะลุช่องของสต็อคเกอร์จนหลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปซัดสวนตัวเช็กซุกก้นตาข่ายให้บาเซิ่ลบุกมานำเชลซีก่อน 1-0

ครึ่งหลัง

ตอร์เรสตามซ้ำสิงห์ตีเสมอ
เข้าสู่ครึ่งหลังเชลซีมาตีเสมอได้ในนาที 49 เมื่อแลมพาร์ดส่องจากหน้าเขตโทษมาติดเซฟซอมเมอร์แล้วเป็นตอร์เรสตามซ้ำดาบสองเข้าไปให้ทีมตีเสมอ 1-1 และเป็นลูกที่ 20 ของเขาในซีซั่นนี้

โมเซสส้มหล่นซัดไม่เหลือ
แถมนาที 52 เชลซียังมาแซงนำเป็น 2-1 เมื่อตอร์เรสหวดด้วยซ้ายแฉลบบล็อกมาเข้าทางโมเซสซัดครั้งแรกติดบล็อกเหมือนกันแต่ยังไวพอที่จะตามหวดซ้ำในตอนที่ซอมเมอร์เสียจังหวะเข้าไป

สิงห์บลูส์บุกโขยกไม่หยุด
อีกสองนาทีให้หลังเชลซีบุกขึ้นมาอีกแล้วโดยคราวนี้รามิเรสได้จังหวะเปิดบอลจากสุดเส้นด้านขวายัดเข้ามาที่กรอบ 6 หลาหมายให้ตอร์เรสชาร์จแต่กองหลังบาเซิ่ลโผล่มาเคลียร์ออกหลังก่อน

ลูอิซตะบันสุดตีนเสียบสามเหลี่ยม
ดูเหมือนว่าลูอิซคงเป็นที่จดจำในรอบตัดเชือกทั้งสองนัดเมื่อนาที 59 แลมพาร์ดป้ายบอลมาให้เขาวิ่งเข้าตะบันจากระยะ 25 หลาด้วยอีซ้ายข้างไม่ถนัดแต่บอลโค้งเข้าเสียบสามเหลี่ยมให้ทีมนำ 3-1

ฟรายเสียดายได้แค่กดไปชนคาน
นาที 64 บาเซิ่ลน่าได้ประตูตีตื้นเมื่อฟรายฉวยโอกาสซัดไกลบอลพุ่งเป็นจรวดไปชนคานกระดอนออกมาหน้าเขตโทษให้ซาลาห์ง้างเท้าวอลเล่ย์ซ้ำแต่ก็ไม่ตรงกรอบ

เช็กไม่ยอมปัดลูกยิงไกลได้อีก
บาเซิ่ลพยายามหาช่องทวงสกอร์คืนจนนาที 79 ก็มีโอกาสจากดิอ๊าซที่เพิ่งถูกเปลี่ยนลงมาแทนฟรายแล้วได้ยิงไกลไปแฉลบอิวาโนวิชเปลี่ยนทางเข้าหากรอบประตูแต่เช็กล้มตัวปัดออกไปได้

จบเกมเชลซีเปิดบ้านสั่งสอนบาเซิ่ล 3-1 รวมผลสองนัดถล่ม 5-2 ผ่านเข้าไปลุ้นแชมป์ยูโรป้า ลีกหนแรกในประวัติศาสตร์สโมสรกับเบนฟิก้าต่อไป

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก 7, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช 6.5, ดาวิด ลูอิซ 7.5 (นาธาน เอเก้ น.82, N/A), แกรี่ เคฮิลล์ 7.5, เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า 7.5 , ไรอัน เบอร์ทรานด์ 7, รามิเรส 6.5 (ออสการ์ น.66, 7), แฟรงค์ แลมพาร์ด 7 , วิคเตอร์ โมเซส 7.5 , เอด็อง อาซาร์ 8* (ฆวน มาต้า น.74, N/A), เฟร์นานโด ตอร์เรส 7.5

สำรองไม่ได้ใช้ : รอสส์ เทิร์นบูลล์, เปาโล เฟร์ไรร่า, จอห์น เทอร์รี่, ยอสซี่ เบนายูน

เทรนเนอร์ : ราฟาเอล เบนิเตซ

บาเซิ่ล : ยานน์ ซอมเมอร์ 7, กาย โวเซอร์ 7, ฟาเบียน ชาร์ 6.5 , กัสตัน เซาโร่ 7, มาร์คุส สไตน์โฮเฟอร์ 7 , เซเรย์ จอฟฟรอย 6 , วาเลนติน สต็อคเกอร์ (ดาวิด เดเก้น น.62, 6.5), ฟาเบียน ฟราย 6 (มาร์เซโล่ ดิอ๊าซ น.75, N/A), โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ 7.5 , โมฮัมเหม็ด เอล-เนนนี่ 7, มาร์โก สเตรลเลอร์ 7 (ยัคเกส ซูอา น.61, 6.5)

สำรองไม่ได้ใช้ : เกอร์มาโน่ ไวลาติ, ปาร์ค จู-โฮ, อาร์ลินด์ อเจติ, อาดิลสัน คาบราล

เทรนเนอร์ : มูรัต ยาคิน
























ขอขอบคุณ>>>http://www.soccersuck.com/

.....